ยันต์ สาลิกา ความหมายของเครื่องรางมหาเสน่ห์

                สำหรับ ยันต์ สาลิกา ได้รับความนิยมมากมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง๋มีทั้งคนที่สักเพราะเชื่อในเรื่องพุทธคุณว่าจะทำให้คนลงรัก เมตตาและในบางคนก็มองในเรื่องของความสวยงาม หากมองภาพรวมแล้วส่วนใหญ่ของยันต์คนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจหากส่งเสริมในเรื่องการเงิน โชคลาภ ความรัก สำหรับ ยันต์ สาลิกา มีในเรื่องของตำนานความรักของเหล่านกสาลิกา ซึ่งเป็นนกเอี้ยงที่มีวิธีหาคู่ด้วยหารส่งเสียงร้องไพเราะจึงเป็นนกที่คนไทยรู้จักกันว่านกสาลิกา หากจะให้บอกว่าเครื่องรางสิกานั้นมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่มีใครทราบ ซึ่งก็มีพระอาจารย์ที่ทำเครื่องรางสาลิกาพร้อมดัดแปลงนำมาเป็นลายสัก ยันต์ สาลิกา เหล่าฆราวาสลูกศิษย์ลูกหาต่างก็เชื่อและนำไปบูชาและในวงการจะทราบกันดีว่าหลวงพ่อเปิ่น แห่งวัดบางพระ ท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือด้านการสักยันต์ ยันต์ สาลิกา มหาเสน่ห์

ตำนานเกจิจารย์ชื่อเสียงโด่งดัง หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม

                อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกเขมา หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ เดิมชื่อ ด.ช. เปิ่น ภูระหงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2466 ท่านนั้ยเคยได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางพระ จ.นครปฐม ซึ่งท่านได้มีเชื่อเสียงในด้านการปลุกเสกเครื่องรางของขลังอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตัวท่านเองก็สนใจด้านวิทยาคมอยู่แล้ว จึงเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวนครชัยศรี ซึ่งตัวท่านเองก็เป็นชาวนครชัยศรีมาแต่กำเนิด

                ภายหลังครอบครัวและตัวท่านได้ย้ายไปตั้งรกรากที่จังหวัดสุพรรณบุรี แต่ก็ได้กลับไปที่จังหวัดนครปฐมอีกครั้ง เพราะต้องไปเกณฑ์ทหาร ไม่นานพอได้ย้ายภูมิลำเนามาดำรงตำแหน่งทหารราชโยธาก็ถูกประกาศยกเลิก จึงกลับบ้านมาช่วยบิดาทำนาและศึกษาวิชาสักยันต์จากพระอาจารย์หิ่ม อินทโชโต วัดบางพระ ในอำเภอนครชัยศรี ด้วยความสนใจศึกษาท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ฉายาว่า “ฐิตคุโณ”

                ทางด้านของพระอาจารย์หิ่ม อินทโชโต ท่านก็ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้เรื่องอักขระโบราณและยันต์ต่าง ๆ เพื่อลงอาคม ไม่นานพระอาจารย์ก็ได้มรณภาพ หลวงพ่อเปิ่นท่านก็ได้จาริกธุดงค์ ซึ่งในเวลานั้นท่านมีชื่อเสียงเรื่องการใช้สมุนไพรช่วยรักษาคนไข้และวัตถุมงคลที่เป็นเหรียญ รวมถึงการสักยันต์ให้แก่ลูกศิษย์

เมื่อบูชา ยันต์ สาลิกา ต้องรู้ข้อห้าม

1.ห้ามพูดให้ผู้อื่นทะเลาะกันหรือพูดในเชิงยุแหย่ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ควรและเป็นการสร้างศัตรู

2.ห้ามถมน้ำลายลงดิน อย่างที่ทราบกันว่าดินมีพระแม่ธรณีเป็นผู้ปกปักรักษา หากกระทำเช่นนั้นจะถือเป็นการลบหลู่พระแม่ธรณี อีกทั้งทำให้เวทย์เสื่อม

3.ห้ามพูดจาด่าทอหรือลบหลู่บุพการี แน่นอนว่าจะส่งผลให้บูชายันต์ใดก็ตามไม่เกิดผล

4.ห้ามพูดจาลบหลู่อาจารย์ผู้สักยันต์ให้ ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดอย่างแรง เพราะถือว่าไม่ให้เกียรติต่อครูบาอาจารย์

                ต้องบอกเลยว่าในบรรดาลายสักทั้งหลาย ยันต์ สาลิกาได้รับความนิยมไม่น้อยในคนทุกเพศ เพราะมีพุทธคุณในเรื่องเสน่ห์เมตตามหานิยม ได้รับความนิยมชมชอบ ไม่ว่าจะพูดอะไรไปใครก็หลง ไม่เพียงเท่านี้ยังเป็นเครื่องรางที่มาส่งเสริมโชคลาภอีกด้วย

5.ห้ามผิดลูกเมีย ผิดผู้อื่น

6.ห้ามไม่ให้ใคเล่นหัว

7.ห้ามลอดราวผ้าไม่ว่ากรณีใดก็ตามและห้ามทานของเหลือจากผู้อื่น ของไหว้ต่าง ๆ เองก็ห้ามทานทาน รวมไปถึงทานของในงานศพ

8.ห้ามบ้วนน้ำลายในโถส้วม

                เรียกได้แต่ละข้อห้ามนั้นมีมากมาย แต่ขอบอกเลยว่าหากไม่อยากให้เครื่องรางหรือ  ยันต์ สาลิกาหมดพุทธานุภาพจะต้องทำให้ได้ทุกข้อ

ความรู้เรื่อง ยันต์ สาลิกา ส่งเสริมเรื่อใดบ้าง

• ไม่ใช่แค่เครื่องรางของขลังเท่านั้นที่ส่งเสริมในเรื่องเมตตามหานิยมการสัก ยันต์ สาลิกา ก็สามารถใช้เสริมเสน่ห์ เมตตาได้เช่นกัน
• ในเรื่องของโชคลาภ
• ส่งเสริมให้คำพูดเป็นที่ชื่นชอบของคนฟัง ทำให้เกิดความหลงใหล
• ไม่แค่คนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ดาราหรือคนดังเองก็นิยมบูชาเช่นกัน
• บูชาแล้วส่งเสริมในหน้าที่การงาน ได้รับการสนับสนุนในเรื่องของผลงาน
• ส่งเสริมในเรื่องของการเงินเช่นกัน

คาถาสาริกาในน้ำมัน

“พุทธา อะเนนา มะลิยา สุสังคะเยมิ”

“พุทธาอิริมะลิยา สุสังคะเยมิ”

“พุทธา อิรปะโย เคมะคุณนะ ปักเขสะเมมะมิ”

“อุนาโลมา ปันนะ วิชายะเต”

                หากใครอยากเป็นที่รักใคร่ ไม่ว่าจะพูดอะไรก็มีแต่คนเชื่อ หลงรักและมีเสน่ห์ ข้อแนะนำคือในระหว่างที่ท่องคาถามาถึงคำว่า “มิ” ให้แตะที่ริมฝีปากหรือลิ้นด้วยทุกครั้ง จากนั้นก็ให้อธิฐานในเรื่องที่อยากได้เมื่อคาถาจบขอในเรื่องที่ต้องการ ให้ออกเสียงเป็นคำห้ามพูดในใจ

วิธีบูชานกสาริกาลิ้นทองเสริมมงคล

1.ในการบูชาจะทำขึ้นทุก ๆ วันพระหรือแล้วแต่ความสะดวก โดยให้ใช้น้ำเปล่า 1 แก้ว เลือกผลไม้มา 1 อย่าง

2.แต่ในทุก ๆ วันพระจะต้อวมีการวางพวงมาลัย เช่น พวงมาลัยดอกกุหลาบหรือดอกดาวเรือง

3.ในการเก็บรักษาเมื่ออยู่ในบ้านหรือที่พัก ไม่ควรวางร่วมกับพระเครื่องควรวางให้ต่ำและไม่ควรวางไว้ที่ปลายเท้าชี้ไป

                คาถาสาลิกาลิ้นทอง (นะ สาลิกาลิ้นทอง) งะ ณะ นะ มะฯ สวด 5 จบ โอมเพี้ยง สาธุ สาธุ สาธุฯ ได้มีประโยคจากแหล่งข้อมูลหนึ่งกล่าวว่า “ในคาถาจะบริกรรมเสกเป่าให้ตัวเองก็ดีนัก หรือจักปลุกเสกประจุในตระกรุดดอกเล็ก ๆ ย่อมได้และดีนักเช่นกัน ซึ่งคนโบราณเรียกว่า “นะสาลิกา ลิ้นทอง” หรือจะปลุกเสกประจุลงในแป้งผัดหน้า น้ำหอม ลิปสติกและอื่นๆ ที่เป็นเครื่องประทินผิวย่อมได้ผลนักแล ซึ่งหญิงชายใช้ได้กันถ้วนหน้า อันวิชานี้ยังเป็นที่สนใจกับเพศตรงข้ามนัก หรือจะไปเจรจาพาทีกับใครนั้นก็จักได้รับความเอ็นดูเมตตา อุปสรรคจักไม่มีมาขัดขวางแต่อย่างใด” เมื่ออ่านแล้วเชื่อว่าหลายคนคงทราบว่าคาถาสาลิกานั้นมีพุทธคุณอย่างไร

                พระคาถาสาลิกาลิ้นทอง (หัวใจพระเจ้า 5 พระองค์) มะ กะ อะ ปิฯ สวด 9 จบ จะเป็นการท่องเพื่อเสกเป่าใส่แป้งทาหน้าหรือเสกเป่าใส่น้ำ ซึ่งจะทำก่อนที่จะออกไปพบใครหรือออกจากบ้าน พระคาถานี้จะช่วยส่งเสริมเสน่ห์เมตตาจะบังเกิดโชคลาภ ผู้คนพบเห็นรักและเอ็นดู อีกทั้งติดต่อเรื่องใดก็สำเร็จและประสบผล

                คาถาสาลิกาลิ้นทอง พุทธา อะเนนา มะลิยา สุสังคะเยมิ พุทธา อิริมะลิยา สุสังคะเยมิ พุทธา อิรปะโย เคมะคุณนะ ปักเขสะเมมะมิ อุนาโลมา ปันนะ วิชายะเตฯ

ตั้งนะโม 3 จบ แล้ว ภาวนาคาถาสาริกาลิ้นทอง

            พุทธคุณของสาริกาลิ้นทอง ส่งเสริมในด้านเมตตา มหาเสน่ห์มีทั้งในเครื่องรางและ ยันต์ สาลิกา  ข้อแนะนำคือ หากต้องการให้เป็นที่รักของใครต่อใคร ให้สวดภาวนา พร้อมกับทำตามที่เราได้กล่าวไว้แล้วนั้น

                คาถาสาลิกาลิ้นทอง ชิวหายัง มะธุรัง วาจัง ชิวหา วาจันติ ผุสสิตะวา จะสุนทะรัง ปิยาเยวะปิยัน ตุนา ฯ พระคาถานี้จะใช้ในตอนที่ใช้ขี้ผึ้งสีปากหรือจะเสกหมากเสกน้ำกิน ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายเมื่อได้ยินเสียงจะรู้สึกว่าไพเราะน่าฟัง

                ในเวลานี้หลายคนต้องมีเครื่องรางของขลังและ ยันต์ สาลิกา ไว้บูชาอย่างแน่นอน เพราะเต็มไปด้วยพุทธคุณในเรื่องความรัก ความเอ็นดูหรือพลังเมตตามหาเน่ห์นั้นเอง