หากพูดถึงบทสวดเก่าแก่ที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยอยุทธยา คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า หรือ คาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย มีความศักดิ์สิทธิ์มากทีเดียว หากผู้ใดสามารถท่องจะทำให้เกิดพุทธคุณในด้านเมตตามหานิยม บันดาลให้เกิดความสำเร็จและป้องกันอันตรายจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ทริกสำคัญขอแนะนำเลยว่าจะต้องบูชาคาถาบทนี้ในทางกุศล จึงจะเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว สำหรับ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า มีความหายถึงการอัญเชิญพระพุทธเจ้าให้มาคุ้มครอง โดยมีคาถาว่า ” อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิอิโสตัง พุทธปิติอิ ” ว่า 3 ,9 จบ หมายถึง “ ขออัญเชิญคุณแห่งพระพุทธเจ้าอันวิเศษคุณแห่งกระแสพระนิพพานอันประเสริฐซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสรรเสริญแล้วจงเป็นมหาวิภูษิตาภรณ์ประดับด้วยมงกุฎทิพย์และเครื่องทรงแห่งพระเจ้ามหาจักรพรรดิครอบคลุมข้าพเจ้าตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ”
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า กับประวัติความเป็นมาของความศักดิ์สิทธิ์
ตามประวัติว่ากันว่าคาถามีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก เพราะพระคาถาบทนี้หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ถวายเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาสยุโรป จะช่วยปกปักรักษาพระองค์ให้แคล้วคราดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ในช่วงเวลานั้นเองที่ม้าเกิดพยศรัชกาลที่ 5 ทรงได้ใช้ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เสกหญ้า เมื่อม้ากินกลับเชื่องขึ้นมาทันที เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้วัว ควายที่เลี้ยงเกิดคลุ้มคลั่งหรือทำร้าย จึงเสกหญ้าให้พวกมันกิน รวมถึงเมื่อต้องเดินทางหรือออกรบ เมื่อท่องคาถาเหฟล่านี้จะป้องกันอันตรายจากศัตรูได้
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า กับความเชื่อโบราณจวบจนปัจจุบัน
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วนั้นเป็นคาถามี่ความศักดิ์สิทธิ์นิยมสวดเพื่อเสิรมความเป็นมงคล ฉะนั้นเมื่อผู้ใดก็ตามจะนำไปสวดแนะนำว่าควรไปในทางกุศล แล้วจะส่งผลดีให้พุทธคุณแก่ตัวผู้สวด แคล้วคาดจากภัยอันตรายจากร้ายกลายเป็นดี แม้ในยามต้องเดินทางไกลและอื่น ๆ อีกเพียบดังนี้
- เป็นคาถาที่นิยมสวดเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่ได้ทำการร่ายคาถานี้
- เมื่อท่องคาถานี้ด้วยจิตใจสงบ มีสมาธิจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
- ความเชื่อโบราณยังเชื่ออีกว่าป้องกันโรคภัย
- นอกจากจิตใจที่สงบและสมาธิจะเกิดขึ้นแล้ว ยังเป็นการสวดคาถาเพื่อเจริญสติปัญญา
- ว่ากันว่าบทสวดนี้เหมาะแก่การสวดช่วงเวลาเช้าและย้ำเลยว่าต้องสวดไปพร้อมกับการชำระร่างกาย โดยเฉพาะการล้างหน้าเชื่อว่าเป็นจุดแห่งราศี ดังนั้นเป็นการเสริมสง่าราศีนั้นเอง
- ในความเชื่ออีกอย่างหนึ่งคือ เชื่อว่าเป็นคาถาที่ทำให้อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า
อย่างไรก็ตามความเชื่อเหล่านี้ไม่ได้เลือนหายไปไหน ยังถูกถูกกล่าวขานอยู่เสมอ โดยเฉพาะในพระอาจารย์เกจิดัง ๆ หลายคนนำไปถ่ายทอดแด่ศิษยานุศิษย์แนะนำให้ท่องนะโม 3 จบก่อนแล้วค่อยท่องคาถานี้และในปัจจุบันเองยังเชื่ออีกว่า คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า จำทำให้ประสบความสำเร็จ สมหวังในสิ่งที่ต้องการ ส่งเสริมพลังด้านเมตตามหานิยม โดยมีความเกี่ยวเนื่องกับการล้างหน้า ที่เราได้กล่าวไปแล้วนั้น จะทำให้รักใคร่เมื่อพบเห็น อีกทั้งยังส่งเสริมให้การเจรจาค้าขายราบรื่นไร้อุปสรรค
ท่องนะโม 3 จบ ก่อน ตามด้วย คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
อิติปิโส วิเสเสอิ
อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ
อิโสตัง พุทธะปิติอิ
(เป็นบทสวดอันเชิญพระพุทธเจ้า)
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า (หลวงพ่อฤาษีลิงดํา วัดท่าซุง)
อิติปิโส วิเสเสอิ
อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ
อิโสตัง พุทธะปิติอิ
พุทธะมะอะอุ ทุกขัง
อนัตตา สัมปจิตฉามิ
(สวด 3 จบ)
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า (หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท)
อิติปิโส วิเสเสอิ
อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ
อิโสตัง พุทธะปิติอิ
เพิ่มเติม : สำหรับหลวงพ่อกวยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจะเป็นการท่อง คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ใช้เป็นคาถาเป่าหัวหรือเป่ากระหม่อม บ้างก็นิยมในการใช้สำหรับสักยันต์บนศีรษะ ให้แก่เหล่าลูกศิษย์ที่เคารพและศรัทธาท่าน เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคล ปกป้องคุ้มภัยไม่ให้เกิดสิ่งไม่ดีหรืออันตรายใด ๆ
เคล็ดลับสำคัญร่าย คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า สวด 9 จบเจริญปัญญา
- ก่อนจะไปดูกันว่าการสวด คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า 9 จบนั้นจะต้องทำอย่างไร ขอแนะนำว่าสิ่งสำคัญคือ จิตและสมาธิ หากมีจิตใจที่แน่วแน่ มั่นคงจะส่งผลทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ถือเป็นเคล็ดลับที่พึงปฏิบัติให้ได้อย่างเคร่งครัด แต่ใช่ว่าจะตึงเครียดมากเกินไป ควรผ่อนคลาย กำหนดลมหายใจเข้าออกให้โล่ง โปร่งสบาย ไม่คิดฟุ้งซ่านหรือกังวลใด ๆ ระหว่างการสวดภาวนาจะต้องผ่อนคลาย ระลึกถึงลมหายใจเข้าออก ปล่อยหัวให้โล่ง ไม่คิดกังวลเรื่องใดๆ
- หากให้แตกย่อยในความหมายของคำว่า คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า จะเห็นว่าเป็นการเปรียบเทียบคาถานี้เป็นดั่งมงกุฎที่สวมใส่ตลอดเวลา ถือเป็นกุศโลบายทางธรรมให้ผู้ใดก็ตามที่สวดภาวนาและปฏิบัติ ได้ พร้อมกำหนดอารมณ์จิตที่มั่นคง เพื่อให้เกิดการเจริญสติกรรมฐาน โดยให้กล่าวดังนี้ “ขออาธารณาบารมีพระพุทธเจ้าเสด็จประทับเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้า เพื่อปกปักรักษา คุ้มครองข้าพเจ้าด้วยเทอญ”
หลังจากนั้นเมือ่ปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นได้แล้ว ให้เริ่มสวด คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า 9 จบ ซึ่งทริกสำคัญคือ พึงระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในทิศต่างๆ รอบตัว ดังต่อไปนี้
” อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ “
เมื่อท่องคาถาท่อนที่ 1 กำหนดภาพพระพุทธรูปอีกองค์อยู่เบื้องหน้าของศีรษะของเรา
” อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิอิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ “
เมื่อท่องคาถาท่อนที่ 2 กำหนดภาพพระพุทธรูปอีกพระองค์หนึ่ง อยู่เบื้องขวา ของศีรษะของเรา
” อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ “
เมื่อท่องคาถาท่อนที่ 3 กำหนดภาพพระพุทธรูปอีกพระองค์ อยู่ด้านหลังของศีรษะเรา
” อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ “
เมื่อท่องคาถาท่อนที่ 4 กำหนดภาพพระพุทธรูปอีกพระองค์ อยู่ด้านซ้าย
” อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ “
เมื่อท่องคาถาท่อนที่ 5 กำหนดภาพพระพุทธรูปอีกพระองค์อยู่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของศีรษะของเรา
” อิงติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ “
เมื่อท่องคาถาท่อนที่ 6 ก็กำหนดภาพพระพุทธรูปอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของศีรษะของเรา
” อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนาพุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ “
เมื่อท่องคาถาท่อนที่ กำหนดภาพพระพุทธรูปอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของศีรษะของเรา
” อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนาพุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ “
เมื่อท่องคาถาท่อนที่ 8 กำหนดภาพพระพุทธรูปอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของศีรษะของเรา
เอาไว้ทั้ง 8 พระองค์เรียงวนรอบศีรษะของเรา
” อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ “
เมื่อท่องคาถาท่อนที่ 9 กำหนดภาพพระพุทธรูปพระพุทธเจ้าองค์ใหญ่เสด็จประทับกึ่งกลางศีรษะเป็นยอดมงกุฎเปล่งประกายพรึกทุก ๆ พระองค์เป็น มงกุฎเพชรพระพุทธเจ้าทั้งเก้าพระองค์บนเศียรเกล้าของเรา
เรียกได้ว่าสำหรับ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เมื่อสวดครบ 9 จบ จะเป็นการเสริมสิริมงคลในด้านต่าง ๆ ได้อย่างครอบจักรวาลทั้งเมตตามหานิยม ป้องกันภัยอันตราย ร่ำรวย คงกระพันชาตรี ไม่เพียงเท่านี้ในจำนวนการสวดนั้นก็มีความหมายที่แตกต่างกันซ่อนอยู่ คือ เมื่อสวด 8 จบ ผู้ที่ร่ายคาถาจะเป็นมหาจังงัง ศัตรูไม่สามารถเข้ามาทำร้ายได้หรือจะเป็นการเพิ่มจำนวนสวดให้มากขึ้นไปอีกคือสวด 18 จบ คิดสิ่งใดสมปรารถนา หากมีสมาธิมากพอสามารถสวดได้มากถึง 108 จบ เป็นการฝึกจิตให้เข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า จะเกิดลังอำนาจมากทีเดียว หากผู้ที่สวดนั้นรักษาศีล 5 ได้
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.thairath.co.th/horoscope/belief/2138987
- https://www.trueplookpanya.com/dhamma/content/86874
📕 อ้างอิงรูปภาพ
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม