ในดินแดนประเทศไทยที่นับถือศาสนาพุทธกันเป็นส่วนใหญ่ ชนชาติไทยกับความเชื่อที่มีต่อพลังแห่งพุทธคุณจึงเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมานมนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ช่วงเวลาความศรัทธาเหล่านี้ก็ยังคงฝังรากอยู่กับการดำเนินชีวิตของผู้คนไม่จางหายไป ทั้งนี้ยังมีการบอกต่อถึงบทสวดและคาถาต่าง ๆ ที่เป็นผลดีต่อชีวิต เพราะเชื่อกันว่าในยามที่จิตใจไม่สงบ การดำเนินชีวิตติดขัดหากหมั่นภาวนาแล้วสวดคาถาเหล่านี้ร่วมด้วยจะทำให้ชีวิตราบรื่น ซึ่งหนึ่งในบทสวดที่นิยมกันมาก คือ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เป็นบทสวดที่เรียกว่าครอบจักรวาลมากทีเดียว และเราจะมาทำความรู้จักคาถานี้ให้มากขึ้น
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า พร้อมคำแปล
บทสวด :
อิติปิโส วิเสเสอิ
อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ
อิโสตัง พุทธะปิติอิ
คำแปล :
ขออัญเชิญคุณแห่งพระพุทธเจ้าอันวิเศษ
คุณแห่งกระแสพระนิพพานอันประเสริฐ
ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสรรเสริญแล้ว
จงเป็นมหาวิภูษิตาภรณ์ประดับด้วยมงกุฎทิพย์
และเครื่องทรงแห่งพระเจ้ามหาจักรพรรดิ
ครอบคลุมข้าพเจ้าตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
ที่มา คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ของหลวงปู่เอี่ยม
มีความเชื่อว่า คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เป็นพระคาถาเก่าแก่ที่มีบันทึกเอาไว้ในตำราพิชัยสงครามที่ใช้สำหรับการทหาร แต่เดิมมีชื่อเรียกอีกว่าคาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย โดยมีความเชื่อมั่นในคาถานี้ว่าหากจัดเตรียมกระบวนทัพเรียบร้อยแล้วก็จะตั้งจิตสวดคาถานี้ก่อนออกไปทำศึก พลานุภาพที่ส่งออกมาจะช่วยคุ้มครองชีวิตของเหล่าทหารที่ออกไปทำศึกให้แคล้วคลาดปลอดภัย อีกทั้งยังเชื่อว่าเป็นคาถาที่สร้างความคงกระพันฟันแทงไม่เข้าอีกด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้าได้เป็นที่กล่าวขานถึงเรื่องพลังแห่งการแคล้วคลาดในวงกว้าง เนื่องจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 มีกำหนดการต้องเสด็จประพาสยุโรปเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนักฝั่งยุโรประยะเวลาหนึ่ง โดยก่อนที่จะเสด็จเยือนยุโรปทรงเสร็จไปพบกับหลวงปู่เอี่ยมที่วัดโคนอน เพื่อให้ช่วยแก้ไขความกังวลต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางต่างทวีป
ซึ่งหลวงปู่เอี่ยมได้เข้าฌานแล้วทำนายถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นระหว่างการเดินไปยุโรป โดยตลอดช่วงเวลาการเจริญสัมพันธไมตรีพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 จะต้องพบเหตุร้ายถึง 2 ครั้ง คือ เหตุการณ์คลื่นลมแรงที่อาจทำให้เรืออับปางระหว่างเส้นทางไปยังยุโรป กับเหตุการณ์ม้าพยศขณะการพบปะคนในราชสำนักฝั่งยุโรป โดยทั้ง 2 เหตุการณ์ที่ว่านี้จะสามารถผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังทำให้ผู้คนประจักษ์ถึงบุญบารมีของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5
ด้วยเหตุนี้หลวงปู่เอี่ยมจึงมอบยันต์บทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้าให้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เพื่อช่วยให้คณะเจริญสัมพันธไมตรีกับยุโรปสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นและแคล้วคลาดปลอดภัยกลับมา ซึ่งด้วยคำแนะนำของหลวงปู่เอี่ยมการเจริญสัมพันธไมตรีครั้งนี้จึงสำเร็จลุล่วงได้ดี และ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ก็กลายเป็นเรื่องราวที่โจษจันกันถึงอานิสงค์ของพระคาถานี้เรื่อยมาตั้งแต่อดีตจนถึงเวลาปัจจุบันนั่นเอง
เหตุผลที่บทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้ามีความครอบจักรวาล
ในปัจจุบันเราจะเห็นว่ามีบทสวดหลายบทที่มีการบอกต่อออกมาเพื่อจุดประสงค์ที่ต่างกันไป เช่น ความร่ำรวย ความเมตตามหานิยม ความแคล้วคลาด เป็นต้น แต่สำหรับ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า กลับเป็นบทสวดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นคาถาที่ครอบจักรวาลเพราะสามารถให้ผลทางพุทธคุณในทุกด้านเพียงแค่สวดคาถานี้เท่านั้น เพราะกล่าวกันว่าพระคาถานี้มีอำนาจพุทธคุณอยู่มากนัก หากปฏิบัติตนในทางที่ถูกที่ควรยิ่งทวีอานิสงค์ให้แก่ผู้สวดมากขึ้น สำหรับผู้ที่มีจิตตั้งมั่นแล้วยึดเอาบทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้ามาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็จะปรากฏผลให้เห็นไม่ว่าจะเป็นความรุ่งเรืองของชีวิต ความราบรื่นของการงานที่ทำอยู่ ความปรารถนาใดที่คงค้างก็สมดังใจ มีแต่คนรักคนเมตตานั่นเอง
ควรสวด คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า อย่างไรจึงจะได้ผล
ก่อนที่จะเริ่มบทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้าผู้สวดจะต้องสงบจิตให้คงที่ และพาจิตของตนเองเข้าสู่สมาธิโดยไม่มีสิ่งใดรบกวน เมื่อตั้งจิตให้อยู่ในความสงบได้แล้วต่อไปก็เริ่มด้วยการสวดบทนมัสการพระรัตนตรัย จากนั้นจึงตามด้วยบทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้า โดยทั่วไปจะสวดตั้งแต่ 3 จบขึ้นไปซึ่งเราได้พบว่าคำแนะนำของการสวดนั้นจะให้ครบที่ 9 จบเป็นพอ แต่ก็มีการระบุเอาไว้เหมือนกันว่าหากต้องสวดพระคาถานี้เพื่อบันดาลให้สมปรารถนาในบางสิ่งก็ขอให้สวดจนครบ 18 จบ แต่ในปัจจุบันเชื่อว่าหากสวดจำนวนจบได้มากก็จะเกิดอานิสงค์สูงจึงได้เห็นการสวดมากถึง 108 จบก็มี
กล่าวกันว่ายามที่เหมาะแก่การเริ่มบทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้าคือช่วงเวลาเช้า และต้องสวดไปพร้อมกับการล้างหน้าและชำระล้างร่างกายด้วย เพราะมีความเชื่อว่าส่วนของใบหน้าเป็นจุดเกิดแห่งราศี ดังนั้น จึงมีความเชื่อว่าการสวดคาถาบทนี้ไปพร้อมกับการทำความสะอาดใบหน้าจะช่วยเสริมราศีของบุคคล อานิสงค์แห่งการคุ้มภัยก็จะเกิดผลดีที่สุด หากทำเป็นประจำก็เสมือนการได้แผ่เมตตาไปยังสัตว์โลกทั้งปวง ซึ่งจะทำให้แคล้วคลาดจากอันตรายรอบด้าน
อย่างที่เราเกริ่นไปตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เป็นบทสวดที่มีตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ดังนั้นจึงเกี่ยวพันอยู่กับการใช้คาถาอาคมในเชิงไสยาศาสตร์ด้วย การสวดจะเกิดผลลัพธ์อย่างไรจึงขึ้นอยู่กับการประพฤติตนของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามหลักศีล 5 สม่ำเสมอ และอานิสงค์จะเกิดขึ้นมากน้อยล้วนอยู่ที่ความตั้งมั่นของผู้สวดคาถาว่าจิตที่แน่วแน่เพียงใด เพราะบทสวดต่าง ๆ ล้วนเป็นเครื่องมือที่ช่วยกำหนดจิตของผู้สวดให้เข้าสู่ความสงบโดยไม่ถูกรบกวน หากจิตของผู้สวดไม่สงบนิ่งพอเกรงว่าบทสวดที่มีพลานุภาพก็ยากจะเกิดผล
หัวใจของบทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้า
บทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้าที่เรานำเสนอไปตอนต้นนั้นเป็นบทสวดที่หลวงปู่เอี่ยมเคยมอบแก่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป และเป็นบทสวดที่มีผู้คนนำไปใช้อย่างกว้างขวาง แต่อย่างไรก็ดีหากได้สำรวจดูแล้วก็จะพบว่ายังมี คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า จากพระเกจิอาจารย์หลายท่าน เช่น หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม เป็นต้น ผู้ที่สนใจบทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้าบทอื่น ๆ ก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ เพราะพระคาถาเหล่านี้ก็ให้ผลในทางพุทธคุณเพื่อช่วยให้ผู้สวดแคล้วคลาดจากอันตรายเหมือนกัน
ในส่วนใจความสำคัญของบทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้าตั้งแต่แรกเริ่ม จะว่าด้วยเรื่องของระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้าและการปล่อยวางจิตให้ว่างเปล่าไม่ยึดติดกับกิเลสใด ตลอดการภาวนาผ่านบทสวดมงกุฎพระพุทธเจ้าก็เปรียบได้กับการควบคุมอารมณ์ของตนเองมีความสงบนิ่งปราศจากความขุ่นมัวในใจ และการจะรับอานิสงค์อันดีจากอำนาจพุทธคุณของบทสวดนี้ก็ต้องมีจิตตั้งมั่นและประพฤติตนในกรอบของศีล 5 ตามที่นำเสนอไปตอนต้นเช่นกัน
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายท่านจะมีความเข้าใจต่อ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เพิ่มไม่มากก็น้อย การภาวนาและพิจารณาอยู่เป็นประจำจะทำให้เราเข้าใจบทสวดนี้ได้อย่างถ่องแท้ และยกไปใช้ได้สมคุณค่าอย่างที่ควรจะเป็น จะเมตตามหานิยมก็ดี จะเป็นการคุ้มภัยให้แคล้วคลาดก็ดี ถ้าไม่สามารถยกเอาไปใช้ได้อย่างเหมาะสมเกรงว่าอานิสงค์บารมีต่าง ๆ ที่ท่านหวังจากบทสวดนี้จะเกิดผลได้ยาก อย่างน้อยที่สุดหากสามารถเข้าใจวิธีการสวดพระคาถานี้ได้เหมาะสมและปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามแนวทางของศีล 5 เชื่อว่าอานิสงค์ที่เฝ้าภาวนาจะบังเกิดแก่ผู้สวดคาถาแน่นอน
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
📕 อ้างอิงรูปภาพ
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎